ที่มาของประเทศไทยหรือสยามมีลักษณะทางประวัติศาสตร์ที่หลากหลายและนับถือได้ว่ามีประวัติความเป็นมาที่สวยงามและน่าทึ่ง วันนี้เราจะมาพูดถึง 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับประเทศไทย
สวัสดี
คำว่า “สวัสดี” เป็นคำทักทายที่ใช้กันทั่วไปในภาษาไทย มีที่มาจากคำศัพท์บาลี-สันสกฤต โดย “สวัส” มีมาจากภาษาบาลี “สत्त” (sattha) ซึ่งหมายถึง “สิ่งที่ดี” หรือ “สิ่งที่เป็นที่พึงปรารถนา,” และ “ดี” เป็นคำที่ใช้ในภาษาไทย
ไทย
ที่มาของชื่อ “ไทย” มีต้นกำเนิดมาจากคำ “ไท” ที่มีผลักดันมาจากภาษาของชนเผ่าในภาคเหนือของประเทศเพื่อใช้เรียกตนเอง. คำว่า “ไท” มีความหมายว่า “เป็นของเราเอง” หรือ “เป็นประชาชนของเราเอง” แสดงถึงความเชื่อมั่นและความเป็นอิสระของชนเผ่า
ไท ไทย
ทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของตัว ‘ย’ ในคำว่า ‘ไทย’ มีหลายทฤษฎี แต่ทฤษฎีที่ดูเป็นไปได้มากที่สุดคือทฤษฎีที่เชื่อว่า ‘ย’ มีต้นกำเนิดจากภาษาบาลี โดยทฤษฎีนี้อธิบายว่า ในภาษาบาลีไม่มีสระ ‘ไอ’ และสระที่ใกล้เคียงมากที่สุดคือ ‘เอยฺย’ ทำให้คำว่า ‘ไท’ ถูกแปลงให้เข้ากับคำว่า ‘เทยฺย’ และกลายเป็นคำว่า ‘ไทย’ ซึ่งได้รับความสำคัญในทางศาสนาและวัฒนธรรม โดยการนำคำนี้มาใช้ในการเปลี่ยนชื่อประเทศจาก ‘สยาม’ เป็น ‘ไทย’ เพื่อเน้นถึงภูมิปัญญาและความศักดิ์สิทธิ์
สยาม
คำว่า “สยาม” เป็นคำเรียกที่ชาวตะวันตกใช้เรียกชาติไทยเมื่อมีการค้าและการเดินทางทางเรือผ่านพม่าในอดีต ชาวพม่าเรียกชาวไทยว่า “เซียน” ที่ปัจจุบันถูกเรียกว่า “ฉาน” โดยมีต้นกำเนิดจากการเพี้ยนการออกเสียงของ “น” เป็น “ม” ซึ่งมีความหมายว่า รัฐหรืออาณาจักร
ไทย
ชื่อเดิมคือ “สยาม” แต่ถูกเปลี่ยนเป็น “ไทย” ในวันที่ 24 มิถุนายน 2482 ตามประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่มีแนวคิดชาตินิยม แต่ในทางกฎหมายต้องถือว่าเปลี่ยนชื่อเป็น “ไทย” ในวันที่ 26 สิงหาคม 2482
แนวคิดที่ดีเริ่มจากการเรียนรู้และพัฒนาตนเองทุกวัน สามารถความคิดเห็นด้านล่าง และ หากคุณกำลังมองหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนพิเศษ สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ https://toponeschool.com/