
ตรรกะทางคณิตศาสตร์ (Mathematical Logic) เป็นพื้นฐานของการคิดเชิงเหตุผล ที่เราใช้ในการตัดสินใจและแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยอาศัยหลัก “จริง-เท็จ” และความสัมพันธ์เชิงเงื่อนไขต่างๆ
ความหมายของตรรกะทางคณิตศาสตร์
ตรรกะ (Logic) หมายถึง กฎเกณฑ์ของการคิดที่เป็นเหตุเป็นผลและตรวจสอบได้ ในทางคณิตศาสตร์ ตรรกะใช้เพื่ออธิบายข้อเท็จจริง (True/False)
ตัวอย่าง:
- “ถ้าฝนตก → ถนนเปียก”
- “ถ้าทำการบ้านเสร็จ → จะได้ออกไปเล่น”
ตรรกะทางคณิตศาสตร์กับชีวิตประจำวัน
1. การตัดสินใจซื้อสินค้า
เมื่อเราเจอโปรโมชั่น เช่น
- ถ้าซื้อครบ 500 บาท → ได้ส่วนลด 50 บาท
ตรรกะตรงนี้ช่วยให้เราคิดวิเคราะห์ว่า คุ้มค่าหรือไม่ที่จะซื้อเพิ่มเพื่อให้ได้ส่วนลด
2. การจัดการเวลา
นักเรียนอาจตั้งเงื่อนไขว่า:
- ถ้าอ่านหนังสือครบ 2 ชั่วโมง → จะเล่นเกมได้ 30 นาที
นี่คือการใช้ตรรกะแบบ เงื่อนไข (If…then…)
3. การใช้เทคโนโลยี
- คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือทำงานด้วย ตรรกะบูลีน (Boolean Logic) เช่น AND, OR, NOT
- ตัวอย่าง: ค้นหาใน Google คำว่า “Math AND Science” จะได้ผลลัพธ์ที่มีทั้งสองคำ
4. การสื่อสารในชีวิตประจำวัน
- “ถ้าเพื่อนไป เราจะไปด้วย” → เงื่อนไขเชิงตรรกะที่พบเสมอในการตัดสินใจ
- การวางแผน เช่น “ถ้าไปสายรถเมล์ไม่ทัน → ต้องเรียกแท็กซี่”
ประเภทของการใช้ตรรกะ
- ตรรกะเชิงเงื่อนไข (Conditional Logic)
- ถ้า A → B
- ตัวอย่าง: ถ้าฝนตก → ต้องพกร่ม
- ตรรกะเชิงพจน์ (Propositional Logic)
- ใช้ประโยคบอกเล่าที่เป็นจริงหรือเท็จ
- ตัวอย่าง: วันนี้เป็นวันหยุด (True/False)
- ตรรกะบูลีน (Boolean Logic)
- ใช้ตัวดำเนินการ เช่น AND, OR, NOT
- ตัวอย่าง: การค้นหาข้อมูลในคอมพิวเตอร์ หรือการเขียนโปรแกรม

ใส่ความเห็น