
หัวใจหลักของวิชาภาษาไทยและการอ่านเขียนภาษาไทยให้แตกฉาน คือการทำความเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานที่สุดสองสิ่ง นั่นคือ พยัญชนะ ซึ่งเป็นโครงสร้างของคำ และ สระ ซึ่งเป็นตัวกำหนดเสียงและการเคลื่อนไหวของคำ
1. พยัญชนะไทย 44 ตัว
พยัญชนะไทย คือ เสียงแท้ที่เปล่งออกมาโดยตรง ปัจจุบันมี 44 รูป ที่เรารู้จักกันดีตั้งแต่ “ก ไก่” ถึง “ฮ นกฮูก”
รายชื่อพยัญชนะไทยทั้ง 44 ตัว:
| ก | ข | ฃ | ค | ฅ | ฆ | ง |
| จ | ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฎ |
| ฏ | ฐ | ฑ | ฒ | ณ | ด | ต |
| ถ | ท | ธ | น | บ | ป | ผ |
| ฝ | พ | ฟ | ภ | ม | ย | ร |
| ล | ว | ศ | ษ | ส | ห | ฬ |
| อ | ฮ |
หมายเหตุ: ปัจจุบัน ฃ (ขวด) และ ฅ (คน) ได้เลิกใช้ไปแล้ว แต่ยังคงนับรวมอยู่ใน 44 ตัวตามเดิม
หัวใจสำคัญ: ไตรยางศ์ หรือ อักษรสามหมู่
การท่องจำ ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูก เป็นเพียงก้าวแรก สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเข้าใจว่าพยัญชนะทั้ง 44 ตัวนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หรือ “ไตรยางศ์ (อักษรสามหมู่)” ซึ่งเป็นพื้นฐานของการผันเสียงวรรณยุกต์
1. อักษรกลาง (มี 9 ตัว)
- กลุ่ม: ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ
- หลักการจำ: “ไก่ จิก เด็ก ตาย เด็ก ตื่น บน ปาก โอ่ง”
- คุณสมบัติ: เป็นกลุ่มที่ผันเสียงวรรณยุกต์ได้ครบทั้ง 5 เสียง (สามัญ เอก โท ตรี จัตวา)
2. อักษรสูง (มี 11 ตัว)
- กลุ่ม: ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห
- หลักการจำ: “ไข่ ขวด ฉิ่ง ฐาน ถุง ผึ้ง ฝา ศาลา ฤๅษี เสือ หีบ”
- คุณสมบัติ: มีพื้นเสียงเป็นเสียงจัตวา และสามารถผันเสียงได้ 3 เสียง (เอก โท จัตวา)
3. อักษรต่ำ (มี 24 ตัว)
- กลุ่ม: พยัญชนะที่เหลือทั้งหมด (ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ)
- คุณสมบัติ: เป็นกลุ่มที่มีจำนวนพยัญชนะมากที่สุด มีพื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ และมีการผันเสียงที่ซับซ้อนกว่ากลุ่มอื่น (เช่น รูปเอกได้เสียงโท, รูปโทได้เสียงตรี)
2. สระในภาษาไทย
สระ คืออะไร? สระ คือ เสียงที่ช่วยให้พยัญชนะสามารถออกเสียงเป็นคำที่สมบูรณ์ได้ ในระบบไวยากรณ์ไทย มักกล่าวว่าสระมี 32 เสียง (หรือ 32 รูป) แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการจำจำนวน คือการทำความเข้าใจประเภทของสระ
การแบ่งประเภทสระที่สำคัญที่สุดในการเรียนภาษาไทย คือการแบ่งตามความยาวของเสียง
1. สระเสียงสั้น
คือสระที่เปล่งเสียงออกมาสั้นๆ ทำให้คำนั้นมีน้ำหนักเบาและกระชับ สระเสียงสั้นเป็นส่วนสำคัญของ “คำตาย”
- ตัวอย่าง: อะ, อิ, อึ, อุ, เอะ, แอะ, โอะ, เอาะ, เออะ, เอียะ, เอือะ, อัวะ
- เช่น: กะปิ, ติด, โต๊ะ
2. สระเสียงยาว
คือสระที่เปล่งเสียงได้ยาวนานกว่า ทำให้คำนั้นมีน้ำหนักเสียงที่ทอดยาว สระเสียงยาวเป็นส่วนสำคัญของ “คำเป็น”
- ตัวอย่าง: อา, อี, อื, อู, เอ, แอ, โอ, ออ, เออ, เอีย, เอือ, อัว
- เช่น: กาง, ดี, เสือ
รูปแบบอื่นๆ ของสระ
นอกจากการแบ่งตามเสียงสั้น-ยาวแล้ว เรายังจำแนกสระตามโครงสร้างได้อีก เช่น:
- สระเดี่ยว : สระที่เปล่งเสียงออกมาเพียงเสียงเดียว (เช่น อะ, อา, อิ, อี,…)
- สระประสม : สระที่เกิดจากการประสมสระเดี่ยว 2 เสียง (เช่น เอีย = อี + อา, เอือ = อื + อา, อัว = อู + อา)
- สระเกิน: เป็นสระที่มีเสียงพยัญชนะสะกดรวมอยู่ด้วย (เช่น อำ [มีเสียง ม], ไอ/ใอ [มีเสียง ย], เอา [มีเสียง ว])
