
พลังงาน เป็นแนวคิดพื้นฐานในฟิสิกส์ที่อธิบายความสามารถในการทำงานหรือการเคลื่อนที่ของวัตถุ โดยในบทความนี้เราจะมุ่งเน้นศึกษาและเปรียบเทียบระหว่าง พลังงานจลน์ (Kinetic Energy) และ พลังงานศักย์ (Potential Energy) พร้อมทั้งอธิบายสูตรคำนวณและตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
พลังงานจลน์ (Kinetic Energy)
ความหมาย
พลังงานจลน์คือพลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของวัตถุ เมื่อวัตถุเคลื่อนที่ มันจะมีพลังงานที่สามารถเปลี่ยนเป็นงานหรือพลังงานชนิดอื่นได้
สูตรคำนวณ
พลังงานจลน์ (KE) คำนวณได้จากสูตร:

โดยที่
- m คือ มวลของวัตถุ (กิโลกรัม)
- v คือ ความเร็วของวัตถุ (เมตร/วินาที)
ตัวอย่าง
- รถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงจะมีพลังงานจลน์สูง ซึ่งทำให้เมื่อต้องหยุดรถก็ต้องใช้แรงเบรกมากเพื่อดูดซับพลังงานนั้น
- ลูกบอลที่ถูกโยนขึ้นฟ้า มีพลังงานจลน์ในขณะที่เคลื่อนที่ไปในแนวตั้ง
พลังงานศักย์ (Potential Energy)
ความหมาย
พลังงานศักย์คือพลังงานที่ถูกเก็บไว้ในวัตถุเนื่องจากตำแหน่งหรือสภาวะของมัน โดยพลังงานศักย์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์เมื่อวัตถุเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนสภาพ
ประเภทที่พบบ่อย
1. พลังงานศักย์โน้มถ่วง (Gravitational Potential Energy)
เกิดจากตำแหน่งของวัตถุในสนามโน้มถ่วง
สูตรคำนวณ:
PE=mgh
โดยที่
- m คือ มวลของวัตถุ (กิโลกรัม)
- g คือ ความเร่งโน้มถ่วง (โดยประมาณ 9.8 m/s² บนโลก)
- h คือ ความสูงจากจุดอ้างอิง (เมตร)
ตัวอย่าง:
- น้ำในถังที่วางบนชั้นสูงมีพลังงานศักย์โน้มถ่วง เมื่อปล่อยน้ำลงมา พลังงานศักย์จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานจลน์และใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องจักรในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
2. พลังงานศักย์ยืดหยุ่น (Elastic Potential Energy)
เกิดจากการยืดหรืออัดของวัตถุที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่น เช่น สปริงหรือยาง
สูตรคำนวณ (สำหรับสปริง):
PE=1/2kx2
โดยที่
- k คือ ค่าคงที่ของสปริง (N/m)
- x คือ ระยะที่ยืดหรืออัดจากตำแหน่งสมดุล (เมตร)
ตัวอย่าง:
- การยิงปืนลูกซองใช้พลังงานศักย์ในสปริงที่ถูกอัดเพื่อปล่อยให้ลูกซองออกไปด้วยความเร็วสูง
พลังงานจลน์และพลังงานศักย์เป็นแนวคิดหลักในฟิสิกส์ที่อธิบายถึงพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่และตำแหน่งของวัตถุ พลังงานจลน์เกิดจากการเคลื่อนที่ ในขณะที่พลังงานศักย์ถูกเก็บไว้ในวัตถุเนื่องจากตำแหน่งหรือการเปลี่ยนรูป พลังงานทั้งสองนี้สามารถเปลี่ยนผ่านกันได้ตามหลักอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญที่ใช้ในหลากหลายสาขา ตั้งแต่การออกแบบเครื่องจักรไปจนถึงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากธรรมชาติ
ใส่ความเห็น