นักฟิสิกส์ผู้ปฏิวัติความเข้าใจเรื่องไฟฟ้า
จอร์จ ไซมอน โอห์ม (16 มีนาคม ค.ศ. 1789 – 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1854) เป็นนักฟิสิกส์และนักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน ที่ยิ่งใหญ่ต่อวงการวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นพบความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างปริมาณทางไฟฟ้าที่สำคัญสามอย่าง ซึ่งต่อมาได้รับการยอมรับและตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาว่า “กฎของโอห์ม” (Ohm’s Law)
ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา

จอร์จ โอห์ม เกิดที่เมืองแอร์ลังเงิน (Erlangen) ในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี บิดาของเขาเป็นช่างทำกุญแจและช่างโลหะ แต่มีความสนใจในวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างลึกซึ้ง และได้สอนความรู้พื้นฐานเหล่านี้ให้กับบุตรชายด้วยตนเอง ทำให้โอห์มมีรากฐานที่แข็งแกร่ง
เขาได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยแอร์ลังเงินในปี ค.ศ. 1805 แต่ต้องหยุดเรียนไประยะหนึ่งเนื่องจากปัญหาทางการเงิน ก่อนจะกลับมาศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในปี ค.ศ. 1811 จากนั้นเขาได้ประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ในโรงเรียนหลายแห่ง
การทดลองครั้งประวัติศาสตร์และ “กฎของโอห์ม”
ในช่วงที่เขาสอนหนังสืออยู่ที่เมืองโคโลญ (Cologne) โอห์มได้เริ่มทำการทดลองเกี่ยวกับไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของนักวิทยาศาสตร์อย่าง อาเลสซานโดร โวลตา (ผู้ประดิษฐ์แบตเตอรี่) และฌ็อง-บาติสต์ โฌแซ็ฟ ฟูรีเย (ผู้ศึกษาการนำความร้อน)
ด้วยอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเองอย่างง่ายๆ โอห์มได้ทำการวัดกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ในวงจรไฟฟ้าที่ใช้วัสดุตัวนำแตกต่างกันหลายชนิด เขาพบความสัมพันธ์ที่สำคัญยิ่งว่า กระแสไฟฟ้า (I) ที่ไหลในวงจร จะมีค่าแปรผันตรงกับความต่างศักย์ (V) และแปรผกผันกับความต้านทาน (R) ของวงจรนั้น
เขาได้ตีพิมพ์ผลงานการค้นพบนี้ในหนังสือชื่อ “The Galvanic Circuit Investigated Mathematically” (วงจรไฟฟ้ากระแสตตรงภายใต้การตรวจสอบเชิงคณิตศาสตร์) ในปี ค.ศ. 1827 ซึ่งได้นำเสนอสมการอันเป็นหัวใจหลักของทฤษฎีไฟฟ้าคือ:V=IR
การยอมรับและบั้นปลายชีวิต
ในช่วงแรก ผลงานของโอห์มกลับไม่ได้รับการยอมรับจากวงการวิทยาศาสตร์ในเยอรมนีมากนัก นักวิทยาศาสตร์ร่วมสมัยบางคนมองว่าแนวทางของเขาเป็นเพียงการคาดเดาเชิงทฤษฎีที่ซับซ้อนเกินความจำเป็น ความผิดหวังนี้ทำให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งอาจารย์
อย่างไรก็ตาม ผลงานของเขาเริ่มเป็นที่ประจักษ์และได้รับการยอมรับในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1841 ราชสมาคมแห่งลอนดอน (Royal Society of London) ได้มอบ เหรียญโคพลีย์ (Copley Medal) ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดให้แก่เขา และในปีต่อมาก็ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นสมาชิกชาวต่างชาติของสมาคม
เกียรติยศจากต่างแดนนี้เองที่ทำให้ชื่อเสียงของโอห์มกลับมาเป็นที่ยอมรับในบ้านเกิดของเขาอีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1849 เขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยมิวนิก ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งนี้จนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1854
มรดกที่คงอยู่
แม้ว่าชีวิตของ จอร์จ ไซมอน โอห์ม จะต้องเผชิญกับการต่อสู้เพื่อให้ผลงานเป็นที่ยอมรับ แต่ “กฎของโอห์ม” ได้กลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของทฤษฎีไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ทุกคนต้องใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบวงจรไฟฟ้า เพื่อเป็นเกียรติแก่คุณูปการอันยิ่งใหญ่นี้ หน่วยวัดความต้านทานไฟฟ้าจึงถูกตั้งชื่อว่า “โอห์ม” (Ohm) และใช้สัญลักษณ์เป็นตัวอักษรกรีก โอเมกา (Ω) มาจนถึงปัจจุบัน